“พิชัย” ขอแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย แก้บาทแข็งทุบส่งออก

“พิชัย นริพทะพันธุ์” เปิด 10 นโยบายให้ข้าราชการ ก.พาณิชย์เดินหน้า เต็มสูบ 3 เดือนสุดท้ายของปี กระตุ้นส่งออก-เร่งลงทุน-เจรจา FTA  พร้อมฝากผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ช่วยเร่งลดดอกเบี้ย คุมเงินบาทไม่ให้แข็ง แก้ปัญหาหนี้ เสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอี หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโต

วันที่ 16 กันยายน 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายและทิศทางการทำงานให้กับข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ว่าได้มอบ 10 นโยบายสำคัญที่ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาล และก็เป็นส่วนหนึ่งที่มาจากนโยบายสมัยนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมที่จะสานต่อเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง สำหรับ 10 นโยบาย ได้แก่

1.ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เน้นการลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน เพิ่มรายได้ ผ่านการสร้างอาชีพ และช่องทางการจำหน่าย เร่งขยายโอกาส นำเทคโนโลยีนวัตกรรมเข้ามาเสริมสร้างศักยภาพการค้าให้เป็นรูปธรรม

2.บริหารให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้บริโภค เกษตรกร ผู้ประกอบการ โดยผู้บริโภคได้สินค้าดี ราคาเป็นธรรม ขณะที่เกษตรกรและผู้ประกอบการรายได้สุทธิเพิ่มพูนอย่างยั่งยืน

3.ทำงานเชิงรุก ระหว่างพาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการนำสินค้าไทยไปขายในต่างประเทศ โดย “รักษาตลาดเดิม เสริมตลาดใหม่”

4.แก้ไขข้อจำกัดของกฎหมายหรือปรับปรุงข้อกฎหมายที่เก่าล้าสมัย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเราเน้นแก้ปัญหาข้อกฎหมายที่เก่าล้าสมัย และต้องแก้ให้เร็ว เพราะโลกเปลี่ยนเร็ว และมีทั้งเรื่องใหม่ เช่น เรื่อง e-Commerce การปรับกฎหมายให้ทันเป็นเรื่องที่จำเป็น

5.ร่วมขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงตลาดและเชื่อมต่อกับการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

6.เร่งผลักดันการส่งออกให้ตัวเลขเป็นบวกยิ่งกว่าเดิม ผ่านกลไกการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก เปิดตลาดการค้าใหม่ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาระบบโลจิสติกส์

7.ผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จาก FTA เร่งเจรจาให้เร็วที่สุด เพื่อให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นส่งออกให้มากขึ้น หลังจากนี้จะมี FTA กำลังจะเกิดขึ้นอีกหลายประเทศ

8.พานักธุรกิจไทยไปบุกต่างประเทศ อยากเห็นนักธุรกิจไทยเข้มแข็งขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดขึ้นได้จริง

9.ปรับโครงสร้างการส่งออกให้ทันสมัย สินค้าส่งออกไทยเริ่มจะล้าสมัย ต้องทำในธุรกิจใหม่ เช่น เรื่อง PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์) ต้องเร่งให้เกิดมากขึ้น ปีที่แล้วมีการลงทุนแล้วกว่า 150,000 ล้านบาท เชื่อว่าอีกไม่นานจะเป็นหลายแสนล้านถึงล้านล้านบาท น่าจะมีธุรกิจที่ต่อเนื่องจากชิปเพิ่มขึ้นในไทยและสินค้าที่ใช้ PCB ไทย เช่น พวกสมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี เป็นต้น หรือ AI Big Data หวังว่าเราจะช่วยสร้าง S-Curve ใหม่ และธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งเทคโนโลยีเป็นอุตสาหกรรมที่มีรายได้สูง สามารถสร้างการจ้างงานได้เยอะและเงินเดือนสูง

10.ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เข้าถึงตลาดสินค้ารักสิ่งแวดล้อม ต้องผลิตสินค้าที่โลกให้ความสำคัญ ซึ่งเรื่องสิ่งแวดล้อมต้องระมัดระวังต้องขายของที่รักษ์ธรรมชาติไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“ด้วยศักยภาพของข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ที่มีความรู้ ความสามารถ จะช่วยขับเคลื่อนนโยบายที่กำหนดไปสู่ความสำเร็จได้ และยังมั่นใจว่ากระทรวงพาณิชย์จะช่วยนำพาการค้า การลงทุนของประเทศให้ก้าวหน้าได้ต่อไป และนอกจากนโยบายที่ผมให้ไว้ เพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน จากนี้ไป ใครมีไอเดียดี ๆ มีวิธีคิดดี ๆ ผมเปิดโอกาสให้เข้ามาพูดคุย ห้องผมเปิดตลอด อยากมาก็มาได้” นายพิชัยกล่าว

ขอแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย

นายพิชัยกล่าวอีกว่า การส่งออกของไทยจำต้องเร่งปรับโครงสร้างการส่งออก เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่สินค้าส่งออกของไทยในปัจจุบันล้าสมัยไปแล้ว จะรอกินบุญเก่าต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องเร่งสร้างธุรกิจและสินค้าส่งออกใหม่ในอุตสาหกรรม S Curve ที่มีศักยภาพ

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแผ่นวงจรพิมพ์ หรือ PCB (Printed Circuit Board) ที่คาดว่าในอนาคตจะสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าไทยได้ราว 1 ล้านล้านบาท และหากมีการลงทุน ก็จะมีธุรกิจต่อเนื่องเกิดขึ้น ทำให้เกิดสินค้าส่งออกในกลุ่มใหม่ ๆ เช่น สมาร์ททีวี สมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นสินค้าเทคโนโลยีที่สร้างรายได้ส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งก่อให้เกิดการจ้างงาน และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับแรงงานคนไทย

ส่วนมาตรการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส รัฐบาลจะหามาตรการลดต้นทุน เช่น การพักหนี้เกษตรกรเพื่อปลดภาระจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงในปัจจุบัน การดูแลหนี้ให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยต้องการให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) ปรับลดดอกเบี้ย และดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งเกินไป เพื่อลดรายจ่ายในภาพรวม และดูแลผู้ส่งออก

“ผมขอเน้นว่าขณะนี้ค่าเงินบาทที่ 33 บาท/เหรียญสหรัฐ ในขณะนี้แข็งเกินไป เดือนเดียวขึ้นมา 5-6% ผู้ส่งออกตายแน่ ๆ อัตราที่ 33 บาท/เหรียญสหรัฐ แบงก์ชาติกรุณาเร่งแก้ไขด้วย เพราะจะกระทบส่งออกโดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่มีอัตรากำไรน้อยอยู่แล้ว

“ผมไม่ได้เป็นคู่แค้นกับแบงก์ชาติ แต่ที่ผ่านมาค่าเงินประเทศคู่แข่งอ่อน แต่ของเราไม่อ่อน ผมว่ามันไม่ถูกต้อง ผมยังงงว่าผู้ว่าแบงก์ชาติออกมาพูดในเชิงว่าประเทศไทยไม่ต้องไปมุ่งเน้นจีดีพีมาก ผมไม่รู้ท่านเรียนจบจากที่ไหนมา เพราะเป็นความคิดที่ผิด เพราะจีดีพี คือ รายได้ของประเทศ หากไม่มีรายได้จะเอาเงินที่ไหนมากระจายให้กับประชาชน”

อย่างไรก็ดี เร็ว ๆ นี้จะนัดหารือกับผู้ว่าแบงก์ชาติ เพื่อทำความเข้าใจและหารือเกี่ยวกับข้อเสนอ และนอกจากนี้จีดีพีของไทยที่เพิ่มขึ้นปีละ 1.9% รายได้ส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือเศรษฐี ทำให้หนี้ครัวเรือนยังพุ่งขึ้นไม่หยุด อยากเรียกร้องให้แบงก์ชาติเสียสละ เร่งปรับลดดอกเบี้ยลง ดูแลเงินบาท ไม่ให้แข็งค่าเกินไป และต้องเพิ่มสภาพคล่องให้เอสเอ็มอีให้มากขึ้น

แบงก์ชาติต้องไม่ทำหน้าที่แค่การกำกับดูแล แต่ต้องช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตด้วย เพราะนโยบายการเงินสำคัญกว่านโยบายการคลังด้วยซ้ำ เราคงไม่อยากเห็นไทยเป็นเหมือนอเมริกาใต้ที่คนจนลง ไม่มีเงินต้องออกมาจี้ปล้น ดังนั้น การทำให้ทุกคนอยู่ได้อย่างมีความสุขเป็นสิ่งที่จำเป็น

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “พิชัย” ขอแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย แก้บาทแข็งทุบส่งออก

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-09-16T07:39:55Z dg43tfdfdgfd