แพทย์ห่วงผู้บาดเจ็บรถบัสไฟไหม้ เด็ก 7 ขวบไฟไหม้กระจกตาเสี่ยงตาบอด!

จากเหตุการณ์เหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยา จังหวัดอุทัยธานี ที่บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งพบร่างผู้เสียชีวิตภายในรถจำนวนหลายราย และมีครูและนักเรียนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล

ล่าสุดผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์รังสิต และคณะแพทย์จากโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ได้ออกมาแถลงความคืบหน้าการรักษาผู้บาดเจ็บ โดย นพ.อโนชา ตาคำ ศัลยแพทย์เจ้าของไข้ แจ้งว่า หลังจากมีผู้นำส่งโรงพยาบาล มีทั้งหมด 3 ราย โดยอาการหนักจะมีอยู่ 2 ราย

ด่วน! ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา มีรายงานผู้เสียชีวิตหลายราย

นายกฯ "อิ๊งค์" ร่ำไห้ หลังทราบเหตุรถบัสไฟไหม้ มีผู้เสียชีวิตหลายราย

“ชาดา” แฉ! คนขับรถกระโดดหนี ก่อนไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาดับสลด

โดยรายที่ 1 เป็นเด็กหญิง อายุประมาณ 6-7 ขวบ ซึ่งมีรอยไหม้บริเวณใบหน้า ลึกระดับ 2 มีรอยไหม้ขนจมูก ผม หน้าปาก และในช่องปากมีรอยไหม้พอสมควร ดูหายใจไม่ค่อยดี มีเสียงดังเหมือนกับหลอดลมด้านบนมันบวม เราจึงพิจารณาใส่เครื่องช่วยหายใจก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้หลอดลมอุดตัน ส่วนรอยไหม้บนใบหน้าและบนกระจกตาก็จะมีหมอตาช่วยประเมินแล้ว นอกจากนั้นยังมีแผลที่มือ 2 ข้างและหนังลอกทั้งหมด แต่บริเวณลำตัวดี ซึ่งทีมแพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ยาแก้ปวด และส่งตัวเข้าห้องไอซียูแล้ว

รายที่ 2 เป็นเด็กหญิง อายุประมาณ 8-9 ขวบ มีรอยไหม้บริเวณใบหน้าเหมือนกัน รวมทั้งไหม้บริเวณจมูกและปาก แต่ลักษณะการหายใจจะดีกว่ารายแรก แต่มีรอยไหม้ระดับ 2 บริเวณลำตำวและแขน 2 ข้าง รายนี้ทางทีมแพทย์ประเมินแล้วว่าอาจจะพอรอไหว และพิจารณาว่าจะใส่ท่อช่วยหายใจให้น้องเหมือนกัน เพราะกลัวว่าระหว่างที่รอเนื้อเยื่อที่มีรอยไหม้จะบวมขึ้น และกลัวน้องจะหยุดหายใจ จึงจะพาไปใส่ท่อช่วยหายใจ และทำความสะดอาดบาดแผล

รายที่ 3 เป็นเด็กหญิง มีรอยไหม้บริเวณใบหน้า โดยมีอาการน้อยที่สุดในผู้บาดเจ็บ 3 คน ซึ่งทีมแพทย์ได้ทำความสะอาดบาดแผล และพาน้องไปสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิดภายในห้องไอซียู

ส่วนการรักษาต่อไปยืนยันว่าทางโรงพยาบาลมีศักยภาพในการรักษาเบื้องต้น หากถึงขั้นต้องอยู่ยาว หรือต้องเข้าศูนย์ดูแลผู้ป่วยบาดแผลไฟไหม้ ก็ต้องมีการว่างแผนการส่งต่อผู้ป่วยอีกครั้งหนึ่ง กับโรงพยาบาลที่เจ้าของไข้ประสงค์ ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ปกครองของเด็กที่บาดเจ็บเดินทางมาที่โรงพยาบลาแล้ว 1 ราย โดยเป็นพ่อแม่ของผู้บาดเจ็บรายแรก

อย่างไรก็ตามผู้บาดเจ็บทั้ง 3 รายถือว่าอยู่ในระดับสีแดง โดยเรื่องการเฝ้าระวังนั้นสำหรับผู้บาดเจ็บเรื่องรอยไหม้ระดับ 2 จะต้องเฝ้าระวังเรื่องสารน้ำ(การสูญเสียน้ำ) และเรื่องการติดเชื้อ ส่วนเรื่องระยะยาวก็จะเป็นเรื่องของบาดแผล สำหรับน้องที่มีรอยไหม้ที่กระจกตาก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องตาบอดทั้ง 2 ข้างอยู่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะต้องเฝ้าระวังเป็นวันๆ ส่วนการดูแลรักษายืนยันให้การรักษาอย่างเพียงพอ ทั้งนี้สำหรับรอยไหม้ของน้องยังมีโอกาสที่ผิวหนังจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เพราะรอยไหม้ระดับ 2 ที่ไม่ลึกมากอาจจะไม่ค่อยทิ้งแผลเป็นเท่าไหร่

“ทั้งนี้ที่เป็นห่วงในกลุ่มผู้บาดเจ็บ 3 คนนี้คือคนที่มีรอยไหม้ที่กระจกตา และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ซึ่งหมอยังกังวัลกลัวเรื่องตาบอด”

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงความรู้สึกของครอบครัวผู้บาดเจ็บ และเป็นห่วงอาการเด็กทั้ง 3 คน ก็ฝากโรงพยาบาลให้ดูแลคนไข้ให้ดีที่สุด และฝากให้เราประสานทางครอบครัวของผู้บาดเจ็บอีก 2 คนที่ยังมาไม่ถึง ซึ่งทราบว่าอยู่จังหวัดสิงห์บุรี

2024-10-01T10:48:10Z dg43tfdfdgfd