ICJ เร่งอิสราเอลให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด่วน!

ด้วยสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ล่าสุดศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ได้คำสั่งให้อิสราเอลรับประกันความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ฉนวนกาซาโดยด่วน

เมื่อวานนี้ คณะตุลาการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ได้ออกคำตัดสินเบื้องต้นแบบเป็นเอกฉันท์ สั่งให้อิสราเอลดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าเสบียงอาหารและสิ่งของขั้นพื้นฐานต่างๆ จะเข้าถึงประชากรปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาโดยด่วน

ศาลโลกยกฟ้อง คดีรัสเซียสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ยิง MH17 ตก

อิสราเอลเมินมติหยุดยิงยูเอ็น เดินหน้าถล่มเมืองราฟาห์

ส่อรอยร้าวสหรัฐฯ-อิสราเอล หลังข้อมติ UNSC หยุดยิงในกาซา

คำสั่งนี้ถือเป็นคำสั่งที่มีผลผูกพันตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งอิสราเอลจำเป็นต้องปฏิบัติตาม หากยอมรับอำนาจศาลของ ICJ อย่างไรก็ดี ศาล ICJ แห่งนี้ไม่มีกลไกหรืออำนาจในการบังคับใช้คำตัดสินของตนเพื่อให้อิสราเอลดำเนินการตาม หรือหมายความว่าหากอิสราเอลไม่ทำตาม ก็อาจไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

คำสั่งของ ICJ ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ เป็นส่วนหนึ่งของชุดคดีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซา ที่แอฟริกาใต้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ซึ่ง ICJ เปิดการไต่สวนครั้งแรกเมื่อวันที่ 11-12 มกราคมที่ผ่านมา

ก่อนที่ในวันที่ 26 มกราคม ICJ จะออกคำตัดสินเบื้องต้นว่าจะไม่ยกฟ้องคดีนี้ตามคำร้องขอของอิสราเอล ขณะเดียวกัน คณะตุลาการก็ได้ใช้อำนาจศาลออกมาตรการชั่วคราว เพื่อป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา แม้ว่าจะยังไม่มีคำตัดสินว่าอิสราเอลทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาชนในฉนวนกาซาจริงหรือไม่

หนึ่งในคำสั่งบังคับที่สำคัญคือ อิสราเอล “จะต้องใช้มาตรการทั้งหมดตามอำนาจของตน” เพื่อป้องกันการกระทำทั้งหมด ที่อยู่ในขอบเขตของอนุสัญญาการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ตลอดจนอิสราเอลต้องใช้มาตรการเพื่อปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาทันที

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เลวร้ายลงเรื่อยๆ ทำให้แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นโจทก์ของคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา ได้ส่งคำขออีกชุดไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ จนกลายเป็นที่มาของการออกคำสั่งเมื่อวานนี้

ขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ออกคำสั่งให้อิสราเอลต้องรับประกันว่าอาหารจะเข้าถึงประชาชนในกาซาได้อย่างเพียงพอ ตอนนี้หลายประเทศก็พยายามช่วยหาทางช่วยบรรเทาวิกฤตด้านอาหารในพื้นที่กาซาแบบเฉพาะหน้า หนึ่งในนั้นคือ การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านทางอากาศ

นี่คือภาพการส่งความช่วยเหลือทางอากาศที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งถูกถ่ายไว้ได้จากพื้นที่ทางใต้ของอิสราเอล เครื่องบินขนาดใหญ่สองลำ บินอยู่เหนือน่านฟ้าของฉนวนกาซา ก่อนที่จะปล่อยลังความช่วยเหลือลงมาพร้อมกับร่มชูชีพ ท่ามกลางกลุ่มควันกำลังพวยพุ่งขึ้นสู้ท้องฟ้า ซึ่งเป็นผลมาจากการทำสงครามในพื้นที่

อย่างไรก็ดี แม้หลายฝ่ายจะพยายามส่งความช่วยเหลือให้แก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาผ่านทางอากาศ แต่นี่ไม่ใช่วิธีที่ยั่งยืนและเป็นอันตรายต่อประชาชนที่มารอรับสิ่งของ เนื่องจากมีโอกาสที่ร่มชูชีพจะไม่กางและสิ่งของหล่นมาทับ รวมไปถึงการแย่งสิ่งของจนเหยียบกันเสียชีวิต

ล่าสุดสำนักข่าวเซาท์ ไชนา มอร์นิงโพสต์ รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ชาวกาซาอย่างน้อย 18 คน เสียชีวิต ขณะที่พยายามไปรับสิ่งของความช่วยเหลือที่ถูกส่งมาทางอากาศ รายละเอียดของข่าวระบุว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิตทั้งหมด มี 6 รายเสียชีวิตจากการเหยียบกันเอง ส่วนอีก 12 รายเสียชีวิตจากการจมน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ขณะที่พยายามว่ายน้ำเพื่อเข้าไปรับความช่วยเหลือที่ตกลงในทะเล นอกจากเรื่องความอันตรายแล้ว การส่งสิ่งของทางอากาศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน หากเทียบกับการส่งความช่วยเหลือผ่านรถบรรทุกจากจุดผ่านแดนราฟาห์

ล่าสุดสถานการณ์ในพื้นที่เรียกได้ว่าเลวร้ายลงอย่างมาก ตอนนี้เด็กทารกในฉนวนกาซาจำนวนไม่น้อย กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนสารอาหารจนร่างกายมีลักษณะที่ผิดปกติ เจ้าหน้าที่พยาบาลในเขตเบต ลาฮิยา พื้นที่ทางตอนเหนือสุดของฉนวนกาซา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการทำสงครามเป็นที่แรกๆ ระบุว่า ทางโรงพยาบาลต้องรับผู้ป่วยเด็กและทารกที่ป่วยจากการขาดสารอาหารหลายคนในแต่ละวัน และถ้าการปิดกั้นความช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป สถานการณ์ทุพภิกขภัยจะเลวร้ายลงไปอีก และเด็กจำนวนไม่น้อยจะเสียชีวิตจากโรคขาดสารอาหาร

แม้สถานการณ์วิกฤตด้านมนุษยธรรมและการขาดแคลนอาหาร เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การสู้รบในหลายจุดของฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายยังปะทะกันอย่างหนัก นอกจากเรื่องความรุนแรงในการสู้รบ ล่าสุดหลายฝ่ายกำลังวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ทางการทหารของกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอลอย่างหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

การวิจารณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังมีผู้นำภาพทหารอิสราเอลที่กำลังเล่นชุดชั้นในสตรี ขณะเข้าไปทำสงครามในฉนวนกาซา เผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ขณะที่บางภาพเป็นภาพที่ทหารอิสราเอล กำลังถ่ายรูปกับหุ่นที่มีสภาพโป๊เปลือยหรือจับตุ๊กตาผู้หญิงด้วยกริยาที่ไม่เหมาะสมส่อไปในทางล่อแหลม บางคนเข้าไปรื้อค้นสิ่งของในบ้านของชาวปาเลสไตน์ พร้อมนำสิ่งของมาถ่ายคลิปและโพสต์ลงโซเชียลมีเดียส่วนตัว

แต่นอกจากภาพทหารอิสราเอลกับชุดชั้นในของสตรีและสิ่งของของประชาชนกาซาแล้ว ล่าสุดผู้ใช้งานบัญชีแอปพลิเคชัน X รายหนึ่ง ซึ่งระบุหน้าโปรไฟล์ว่าเป็นนักข่าวของปาเลสไตน์ ได้โพสต์ภาพทหารอิสราเอล ขณะที่เข้าไปทำสงครามในฉนวนกาซา และแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

แต่มีหนึ่งภาพที่กลายเป็นประเด็นใหญ่ขึ้นมา นั่นคือ ภาพทหารอิสราเอลนายหนึ่งที่ชูธงชาติซึ่งมีลักษณะเหมือนธงชาติไทย บริเวณหน้ารถถัง รวมถึงภาพคู่สมรสคู่หนึ่งที่ฝ่ายหญิงมีใบหน้าลักษณะคล้ายคนไทย ตอนนี้ภาพดังกล่าวมีผู้เข้าชมทะลุ 3 ล้านครั้งแล้ว

อย่างไรก็ดี ภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมา ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัดว่าทหารอิสราเอลทำเช่นนั้นจริงหรือไม่ หรือภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจากการตัดต่อหรือไม่ ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ทางกระทรวงสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว และแสดงความกังวลต่อผลกระทบที่อาจตามมาหลังจากนี้

ขณะที่เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ได้ชี้แจงกลับมาว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโฆษณาชวนเชื่อ (propaganda) หรือเป็นภาพจริง แต่ถ้าทหารอิสราเอลถือธงชาติไทยจริง ก็อาจเป็นการกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และบอกว่ารัฐบาลอิสราเอลไม่สนับสนุนการกระทำดังกล่าวแน่นอน แต่ก็ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมการกระทำส่วนตัวของทหารทุกนายได้

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้แสดงความกังวลกลับไปและขอให้รัฐบาลอิสราเอลกำชับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก เนื่องจากไทยไม่ได้มีความขัดแย้งกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และประสงค์ให้ความขัดแย้งนี้ยุติโดยเร็วบนพื้นฐานของการเจรจาทางการเมือง

ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยยังกังวลว่า การกระทำเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซาที่เหลืออีก 8 คนด้วย นอกจากประชาชนในฉนวนกาซา ตอนนี้ผลของสงครามได้ขยายไปถึงสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล ท่ามกลางการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึงในช่วงปลายปีนี้ด้วย

เมื่อวานนี้ ประชาชนจำนวนไม่น้อยได้ไปรวมตัวประท้วง ที่บริเวณด้านหน้าของโรงละคร RADIO CITY MUSIC HALL ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่จัดระดมทุน สำหรับแคมเปญการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ประชาชนที่มาประท้วงได้ชูธงชาติปาเลสไตน์ พร้อมป้ายข้อความที่วิจารณ์นโยบายของประธานาธิบดีไบเดนต่อสงครามปาเลสไตน์

ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ โดยเรียกประธานาธิบดีไบเดนว่าเป็น “อาชญากรสงคราม” และยืนยันว่าจะไม่สนับสนุนประธานาธิบดีไบเดนซึ่งเป็นผู้ชิงชัยประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งใหญ่ปลายปีที่จะถึงนี้

2024-03-29T13:56:43Z dg43tfdfdgfd