KNU ยึดที่มั่นทหารเมียนมาในรัฐกะเหรี่ยงเพิ่ม

กองพันที่ 5 ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เปิดเผยว่าได้ร่วมมือกับ กองกำลังปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และกองกำลังป้องกันประชาชน (PDF) กับกลุ่มต่อต้านอื่น ๆ โจมตีศูนย์บัญชาการของกองพันทหารราบที่ 434 ของฝ่ายรัฐบาลทหาร กับสถานีเก็บยุทโธปกรณ์และเครื่องแบบของกองทัพ หมายเลข 642 ในเมืองผาปูน เมื่อ 23 เม.ย.

โดยกองพันที่่ 5 ของกลุ่ม KNU ยืนยันว่าสามารถยึดฐานทัพและสถานีเก็บเสบียงแห่งนี้ได้ภายในเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 24 เม.ย.

อิรักผ่านกฎหมายต่อต้าน LGBTQ-ค้าประเวณี โทษจำคุกสูงสุด 15 ปี

อินโดนีเซียเตรียมส่งข้าราชการชุดแรกประเดิมเมืองหลวงใหม่

คลังเก็บเครื่องกระสุนกัมพูชาระเบิด ทหารเสียชีวิต 20 นาย

สำหรับเมืองผาปูน ซึ่งตั้งทางตอนเหนือของรัฐกะเหรี่ยง ถูกกองกำลัง KNU และพันธมิตรยึดได้เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม นับแต่นั้น กองทัพรัฐบาลทหารก็พยายามยึดเมืองคืนมาตลอด โดยส่งเครื่องบินโจมตีทางอากาศและใช้โดรนโจมตีเขตผาปูนอย่างต่อเนื่อง ทำลายบ้านเรือนกับอาคารสาธารณะมากมาย และมีข่าวการใช้ระเบิดลูกปรายด้วย

ส่วนสถานการณ์สู้รบในภาคตะวันตก ผู้เชี่ยวชาญด้านเมียนมา ของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาด้านยุทธศาสตร์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประเมินว่าขณะนี้กองทัพอาระกันเอาชนะในพิกัดสำคัญต่าง ๆ ในพื้นที่รัฐยะไข่ได้เกือบทั้งหมดแล้ว”

ทางกองทัพอาระกันระบุว่าได้เข้าควบคุม 8 เมืองจาก 18 เมืองในรัฐยะไข่ และยังเข้าควบคุมอีก 1 เมืองในรัฐคะฉิ่นที่อยู่ใกล้เคียง โดยในขณะนี้เหลือเพียงไม่กี่เมืองที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพเมียนมา

ขณะที่ ทีมโฆษกกองทัพอาระกัน แสดงความมั่นใจว่าจะบุกยึด 2 เมืองสำคัญของรัฐยะไข่ นั่นคือ ซิตตะเว ซึ่งเป็นเมืองเอก และเจ้าผิวก์ ซึ่งเป็นเมืองท่า ในเร็ววันนี้ โดยระบุว่ากำลังพลในสังกัดสามารถปิดล้อมเมืองทั้ง 2 แห่งเอาไว้ได้แล้ว 

โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา พลตรี ตวัน มยัด นาย (Twan Mrat Naing) ผู้นำกองทัพอาระกัน  ได้เตือนประชาชนในเมืองซิตตะเว และเมืองเจ้าผิวก์ ให้เตรียมความพร้อมอพยพ เนื่องจากกำลังจะเกิดการสู้รบเพื่อบุกยึดเมืองทั้งสอง ซึ่งเป้าหมายของทัพอาระกันคือการยึดพื้นที่รัฐยะไข่ให้ได้ทั้งหมด 

สำหรับเมืองซิตตะเวและเมืองเจ้าผิวก์มีความสำคัญต่อรัฐบาลทหารเมียนมาเนื่องจากเป็นแหล่งรายได้สำคัญโดยเฉพาะรายได้ที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งยังมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่จากกลุ่มทุนจีนมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 3 แสนล้านบาท

โดยเมืองซิตตะเวเป็นเส้นทางหลักที่เมียนมาใช้สำหรับการค้าขายน้ำมันผ่านมหาสมุทรอินเดีย ส่วนเมืองเจ้าผิวก์เป็นปลายทางของเส้นทางการขนส่งจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ออกสู่มหาสมุทรอินเดีย

2024-04-29T02:56:15Z dg43tfdfdgfd