จับแล้ว! อินเดียโหดแทง 31 แผล ฆ่าหญิงไทยคาโรงแรมย่านตลาดพลู

พ.ต.ท.วงศกร แต่งตั้ง สว. (สอบสวน) สน.ตลาดพลู รับแจ้งเหตุฆาตรกรรมในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรม 5 ชั้น พบ น.ส.สุกัญญา อายุ 51 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยือแขนสั้นสีแดง กางเกงยีนส์ มีร่องถูกแทงด้วยมีด ทั่วร่างกายรวม 31 แผล โดยชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ใกล้กันพบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพแบตฯหมด พร้อมกับมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุตเปื้อนเลือด

แฉ! รถแห่เทงาน ชิ่งเงินมัดจำหนี พบก่อเหตุมาแล้ว 3 ปี ยังจับตัวไม่ได้!

ห้าวไม่สนป้ายเตือน! วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนกลางงานแห่ไม้ค้ำ

ขณะที่บริเวณหน้าห้องน้ำพบโทรศัพท์อีกเครื่องวางชาร์จแบตไว้อีกเครื่อง ขณะที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยังมีบุคคลโทรศัพท์เข้ามาทวงหนี้จากผู้ตายอีกด้วย ส่วนภายในห้อง ข้าวของกระจายเกลื่อน เลือดกระจายเปื้อนกำแพงไปทั่วห้อง ยาวไปถึงในห้องน้ำและห้องแต่งตัว บนโต๊ะแต่งหน้ายังพบหมวกกันน๊อกแบบเต็มใบสีน้ำเงินของคนร้ายวางอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นทรัพย์สินผู้ตายยังอยู่ครบ

จากการสอบถามพนักงานต้อนรับ ให้การว่า ผู้ตายเข้ามาเปิดห้องพักดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีผู้ชายเป็นชาวอินเดียมาพักอยู่ด้วย ซึ่งผู้ตายจะมาที่ห้องช่วงเช้าของทุกวัน และกลับไปช่วงค่ำ โดยชายชาวอินเดีย ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-เทา

ก่อนเกิดเหตุ ช่วงใกล้เที่ยงได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงภายในห้อง จึงโทรศัพท์ขึ้นไปหาผู้เช่า ปรากฏว่า ฝ่ายชายเป็นผู้รับ แล้ววางสายถึง 2 ครั้ง สักพักเสียงทะเลาะก็เงียบไป จึงคิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว จนกระทั่งบ่ายโมงเศษ เห็นชายคนดังกล่าวเดินลงมาจากชั้น 2 ทำทีเล่นโทรศัพท์ แล้วเดินออกไปหน้าปากซอยอย่างใจเย็น 

ขณะที่น้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ไม่รู้เลยว่าพี่ตนเองทำอะไร มารู้อีกทีก็เสียชีวิตแล้ว โดยปกติอยู่กับพี่สาวตลอด อยู่บ้านเดียวกัน เมื่อเช้าพี่ยังเพิ่งพาแม่ไปฟอกไต พร้อมกับพี่เลี้ยงอีกคนตั้งแต่เวลา 08.30 น. พอส่งแม่เข้าห้องฟอกไตก็เบี่ยงออกมาทำธุระ แต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน บอกแค่ว่าเดี๋ยว 13.00 น.จะกลับมา

น้องสาวเพิ่งรู้ว่าพี่สาวเสียชีวิตเมื่อเวลา 15.00 น. โดยรู้จากหลานอีกที แต่ตำรวจแจ้งไปทางพี่เขยตนว่า ถูกฆาตกรรม ยังไม่เห็นสภาพพี่สาว ตอนนี้ทราบว่ารู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว กำลังจะออกหมายจับ เป็นชายชาวอิน ซึ่งตนไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับชายคนดังกล่าว เพราะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน 

ด้าน ลูกชายของผู้เสียชีวิต บอกว่า ที่บ้านไม่มีใครรู้เรื่องแม่เลย เพราะแม่ปิดกั้นเรื่องนี้มาตลอด เช้าออกไปทำงาน กลับมาก็ปิดโทรศัพท์ ปกติออกไปตั้งแต่เช้า กลับบ้านมาช่วงเย็น ทราบว่าแม่ทำงานเป็นแม่บ้าน แต่ไม่รู้ที่ไหน เพราะเปลี่ยนหลายที่มาก อย่างไรก็ตาม แม่กับพ่ออยู่ที่บ้านด้วยกัน ส่วนชายผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นทางชู้สาว เมื่อเช้าแม่บอกว่าจะพายายไปฟอกไต แต่มาโผล่ที่นี่ ก็ยัง งง อยู่เลย ว่ามาเกิดเหตุที่นี่ได้อย่างไร

ลูกชายบอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เคยเห็นรูปชายคนดังกล่าวในเฟซบุ๊กแม่ แต่แม่บอกว่าโดนแฮกเฟซบุ๊ก จึงไปแจ้งความจับและถูกส่งกลับประเทศไปแล้ว ถามเพิ่มเติมก็จะเบี่ยงเบน เฉไฉ ดูจากการถ่ายภาพ ก็ดูสนิทสนมกันมาก ตอนนั้นคิดว่าน่าจะทางชู้สาว แต่แม่บอกว่าไม่ใช่ คิดว่าน่าจะคบกันนานแล้ว 

ก่อนหน้านี้เคยพบว่า แม่มีบาดแผล พอถามก็บอกว่าตกรถ รอยช้ำตามแขน ขา และที่หลัง พอตอนนี้มาเกิดเรื่องและเห็นภาพ ก็กลัวว่า คนร้ายจะหนีออกนอกประเทศ ส่วนทรัพย์สิน ไม่มีอะไรหายไป คิดว่า ปมเหตุน่าจะมาจากเรื่ิองเงินมากกว่า หวังว่าตำรวจจะตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด

จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อ คือ นายยาเดฟ อายุ 32 ปี ชาวอินเดีย ซึ่งถูกผลักดันให้ออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เข้ามาเช่ารถจักรยานยนต์ที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์มาพักอยู่กับ น.ส.สุกัญญา ที่แอบคบหากันในห้องที่เกิดเหตุ

ส่วน น.ส.สุกัญญา มีอาชีพเป็นแม่บ้าน โดยสามีทำงานรับเหมาปูกระเบื้อง ผู้ตายจะบอกกับลูกทุกวันว่าออกไปเยี่ยมยายที่ป่วยติดเตียงที่บ้านพักย่านจอมทอง แต่ไม่เคยไปถึงบ้านยายเลย ซึ่งหลังก่อเหตุ ผู้ต้องสงสัยได้เดินไปขึ้นจักรยานยนต์รับจ้างหน้าปากซอยวุฒากาศ 14 ก่อนว่าจ้างให้ไปขึ้นรถตู้ที่วินข้างห้างพาต้า ปิ่นเกล้า ระบุปลายทางไป อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ประสานตำรวจ จ.กาญจนบุรี และระดมกำลังกันไปที่จ.กาญจนบุรี เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้เป็นการด่วนแล้ว

ล่าสุด มีรายงานว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วที่ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี คาดกำลังวางแผนหลบหนีออกนอกประเทศ สำหรับรายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป

2024-04-16T14:37:35Z dg43tfdfdgfd