ประชาชนหลายคนหมดหวัง บอกไม่รอเงินดิจิทัลหมื่นบาท

มาฟังความคิดเห็นของประชาชนกัน หลังมีการเลื่อนแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไปช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ยังรอกันมั้ย เพราะเลื่อนมาครั้ง ประชาชนเสียงแตก บางคนไม่รอแล้ว เพราะหมดหวัง ถ้าได้น่าจะได้นานแล้ว และหลักเกณฑ์การแจกเงินดิจิทัลยุ่งยาก ต้องกลับไปใช้ตามทะเบียนบ้าน  ส่วนบางคนบอกยังรอเพื่อมาช่วยเหลือค่าครองชีพ  และอยากให้รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์นำไปใช้จ่ายเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถได้ 

10 เม.ย.นี้ ดิจิทัล วอลเล็ต ชัดเจนทุกอย่าง สมบูรณ์ ตอบโจทย์ทุกฝ่าย

มอบรายกระทรวงเดินหน้าดิจิทัล วอลเล็ต ถามหาผู้ว่าแบงก์ชาติไม่เข้าประชุม

จากการสอบถามประชาชนย่านอนุเสาวรีย์ชัย หลายคนบอกว่า ไม่รอเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทแล้ว เพราะหมดความหวัง มองไม่เห็นความชัดเจน ทั้งการเลื่อนแจกเงิน และมองว่าควรปรับเงื่อนไขการใช้เงิน ให้ใช้ในพื้นที่ไหนก็ได้ เพราะเชื่อว่าคนที่มาทำงานในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด ไม่สะดวกที่จะกลับไปใช้เงินที่บ้านเกิดของตัวเอง

"ความหวังก็ไม่ค่อยจะมีละครับ เพราะว่าหลักเกณฑ์เงื่อนไขต่าง ๆ ไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน ทะเบียนบ้านอยู่เชียงใหม่ แต่มาทำงานกรุงเทพ ถ้าจะใช้ก็ต้องเดินทางก็จะเสียค่าใช้จ่ายอีก ก้อยากให้รัฐบาลปรับกฎเกณฑ์อะไรต่าง ๆ ให้มันง่ายขึ้นมา ให้ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทาง เติมน้ำมัน เพราะค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ในกรุงเทพ ก็เดินทางส่วนใหญ่"   ณัฐพงษ์ แย้มตราการ ประชาชน กล่าว

"ตอนนี้ไม่ได้คาดหวังแล้ว เพราะว่ามันนานแล้ว ถ้าจะได้จริง ๆ ควรน่าจะได้ตั้งนานแล้ว " วรพล พุทธระสุ  ประชาชน กล่าว 

แต่ก็ยังมีคนที่เห็นต่าง บอกว่ายังรอใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาทอยู่ แม้จะเลื่อนแจก หากได้เงินตรงนี้มา ก็จะได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะช่วงนี้ค่าครองชีพแพงมาก และอยากให้รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์นำไปใช้จ่ายเป็นค่าน้ำค่าไฟค่าน้ำมันรถได้

"ก็อยากจะไปใช้ที่มันจำเป็นหลายอย่าง  เช่นน้ำมันรถ ค่าไฟ ค่าน้ำ อยากให้เป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นไปได้นะคะ ก้อยากให้รัฐบาลช่วยปรับให้หน่อย อะไรที่ปรับได้ ก็อยากให้รัฐบาลปรับนะคะ" อุบล ประเสริฐสังข์ ประชาชน กล่าว 

ด้านนายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ให้ความเห็นถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่า หากเงินถึงมือประชาชนช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ตามที่รัฐบาลคาดไว้ จะทำให้การใช้จ่ายเกิดขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งไม่ทันกับการกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ แต่จะไปมีผลกับตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจในปีหน้าแทน แต่การที่รัฐบาลมีการแถลงถึงความคืบหน้าและมีกรอบระยะเวลาชัดเจนขึ้น อาจเป็นผลดีกับการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงิน 500,000 ล้านบาท ที่จะอัดฉีดเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอุปโภค-บริโภค

ส่วนประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 67 นายสุกิจบอกว่าไม่ได้นำผลจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตมาคำนวณ คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวที่ 3% ปัจจัยหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจปีนี้เติบโตได้ ขึ้นอยู่กับการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น และการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐต่ำกว่าคาด เศรษฐกิจไทยในปีนี้ก็อาจจะขยายตัวเพียง 2.5%

2024-03-28T05:08:25Z dg43tfdfdgfd