พบเส้นทางเงินอดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ถูกคนสนิทแอบถอนออกจากบัญชี

วันที่ 23 เม.ย. 2567  ที่วัดบางคลาน หรือที่รู้จักกันทั่วไปคือ วัดหลวงพ่อเงิน ตำบลบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาขัดแย้งกันมานานตั้งแต่ปี 2557 ระหว่างกลุ่มอดีตเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้ว  และกลุ่มเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันในเรื่องของการที่กลุ่มอดีตเจ้าอาวาสไม่ยอมส่งมอบทรัพย์สิน เงินบริจาค เงินทำบุญ และวัตถุมงคลต่างๆที่ผ่านมา ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวเริ่มคลี่คลายจากที่มีหน่วยงานราชการ เข้ามาร่วมแก้ปัญหากับคนในชุมชน และคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย

ปะทะคารมวุ่น! “สว.กิตติศักดิ์” ขวางเจ้าอาวาส-ตำรวจ เข้าวัดบางคลาน

ไวยาวัจกรวัดบางคลาน แจ้งจับคนสนิท “สว.กิตติศักดิ์” ร่วมปุกปั่นบุกยึดวัด

และเป็นไปตามระเบียบของสำนักพระพุทธศาสนา รวมทั้งให้เกิดความรักสามัคคีกัน  ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้คลี่คลายไปได้รับดับหนึ่งแล้วแต่ยังไม่ถึงกับ 100 % เพราะยังมีการทำบุญซ้ำซ้อนกันในศาลาวัดเดียวกัน

นายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกรวัดบางคลาน เปิดเผยว่า เมื่อพระครูวิสิฐลีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ได้มรณภาพลง ทางคณะกรรการวัดบางคลานชุดใหม่ และเจ้าอาวาสรูปใหม่ที่รักษาการในช่วงนั้น ได้ยื่นขอจัดการมรดกของอดีตเจ้าอาวาส แต่จะมีคนที่คอยดูแลทรัพย์สินของเจ้าอาวาสรูปเก่าคอยมายื่นต่อสู้ เรื่องการจัดการมรดกเอง จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งพิพากษาให้วัดเป็นผู้จัดการมรดก

เมื่อทางวัดได้เป็นผู้จัดการมรดกของอดีตเจ้าอาวาสรูปเก่า คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของวัดบางคลาน ได้ไปตรวจสอบบัญชีการเงินอดีตเจ้าอาวาส ของธนาคารกสิกรไทย สาขาบางมูลนาก จ.พิจิตร จึงพบว่าได้มีการแอบลักลอบโอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าวไป 4 ครั้งๆละ 1 แสนบบาท รวมเป็นเงิน 4 แสนบาท หลังจากเจ้าอาวาสมรณภาพได้ไม่นาน ซึ่งพระครูวิสิฐลีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ท่านมรณภาพไปเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2565 ช่วงประมาณตี 5 แล้วต่อมาในเวลา 11.00 น. ของวันที่ 24 มิ.ย. 2565 ก็ได้มีการโอนเงินเข้าไปยังบัญชี ชื่อของแกนนำกลุ่มอดีตเจ้าอาวาสที่ออกมาคัดค้านการส่งมอบทรัพย์สิน เป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท

 จากนั้นใน วันที่ 25,26 และ 27 เดือนเดียวกัน ได้มีการโอนออกไปอีก วันละครั้ง ครั้งละ 1 แสนบาท เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 4 แสนบาท  โดยใช้โมบายแบงค์กิ้ง ของโทรศัพท์มือถือ โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า ก่อนจะโอนออกมีเงินในบัญชีอยู่ 1 ล้านกว่าบาท แต่เคยตรวจสอบตอนเดือนส.ค. มีเงินทั้งหมด 1,820,000 บาท หลังจากโอนออกในบัญชีเหลือเงินเพียง 620,000 บาท จากนั้นก็ได้ไปแจ้งความที่ สภ.บางมูลนาก 

การดำเนินการตอนนี้ที่ทราบครั้งล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่แล้วว่ามีกำลังดำเนินการเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาให้การ ตอนนี้ก็ยังเงียบอยู่ นอกจากนี้ในส่วนเรื่องทรัพย์สินการเช่าที่นาของวัดบางคลาน เพื่อทำนาซึ่งวัดจะมีพื้นที่นาให้เช่า ไร่ละ 600 บาท ต่อปี จำนวน 45 ไร่ ซึ่งทำนาได้ถึงปีละ 3 ครั้ง แต่ตั้งแต่ปี 2560 ผู้เช่านาไม่เคยจ่ายเงินค่าเช่าให้กับวัดเลยแม้แต่บาทเดียว  ถ้าคิดเป็นเงินก็ประมาณ 2-3 แสนบาท วัดก็จำเป็นต้องยกเลิกการเช่านาแล้วยื่นฟ้องศาลให้ผู้เช่าคืนนาให้กับทางวัด ก็เลยต่อสู้คดีกันมา และบ้านผู้เช่านาก็อยู่หลังวัด แต่อดีตไวยาวัจกร รายหนึ่งไปทำสัญญาให้เขาเช่าทั้งที่ตนหลุดพ้นจากตำแหน่งไปนานแล้ว และศาลเลยตัดสินให้เขามีส่วนร่วมต้องชดใช้ให้กับวัดเป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท ตอนนี้ไม่ยอมออกซึ่งรอศาลสั่งขับไล่ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบผลว่าเป็นยังไง

ด้าน พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้เดินทางไปตรวจราชการที่ สภ.บางมูลนาก กล่าวว่า ตอนนี้ได้กำชับให้ผู้กำกับสภ.บางมูลนาก เร่งติดตามดูแลคดีดังกล่าวที่มีเจ้าทุกข์แจ้งความไว้ และให้ชัดเจนว่ามันมีความผิดเกิดขึ้นเมื่อไหร่อย่างไร และให้สืบสวนต่อ พร้อมกับรวบรวมหลักฐานต่างๆตามข้อเท็จจริงที่มันเกิดขึ้น และให้ดำเนินคดีตรงไปตรงมาตามกฎหมาย

2024-04-23T09:49:29Z dg43tfdfdgfd