ศาลชี้มีมูลความจริง คดีข่มขืนเจ้าหน้าที่หญิงในอาคารรัฐสภาออสเตรเลีย

ปี 2021 ที่ประเทศออสเตรเลียเกิดคดีการฟ้องร้องซึ่งเป็นที่สนใจของสาธารณชนทั่วประเทศ เมื่ออดีตเจ้าหน้าที่การเมือง บริตตานี ฮิกกินส์ กล่าวหาว่า เพื่อนร่วมงานของเธอ บรูซ เลห์มันน์ ได้ก่อเหตุข่มขืนเธอในอาคารรัฐสภา หลังจากดื่มสุราด้วยกันในปี 2019

ฮิกกินส์ให้สัมภาษณ์ในรายการ “The Project” ของ Network Ten หนึ่งในเครือข่ายโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย บอกว่าเธอถูกเพื่อนร่วมงานข่มขืน แม้ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่ทุกคนทราบว่าเป็นเลห์มันน์

การสัมภาษณ์พิเศษครั้งนั้นก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการจัดการของรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทางการเมือง

หลังจากการสัมภาษณ์ออกอากาศ เลห์มันน์ถูกตั้งข้อหามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้รับความยินยอม แต่การพิจารณาคดีถูกยกเลิกในปี 2022 เนื่องจากการประพฤติมิชอบของคณะลูกขุน และไม่มีการรื้อคดีขึ้นมา เนื่องจากความกังวลเรื่องสุขภาพจิตของฮิกกินส์

เมื่อไม่มีการพิจารณาคดีและไม่มีหนทางที่จะล้างชื่อเสียของเขา เลห์มันน์จึงหันไปดำเนินคดีหมิ่นประมาท โดยอ้างว่า Network Ten และผู้ดำเนินรายการ The Project อย่าง ลิซา วิลกินสัน ได้ทำลายชื่อเสียงของเขาด้วยการให้ข้อมูลเพียงพอที่จะระบุตัวเขาได้ แม้ว่าจะไม่ได้ระบุชื่อก็ตาม

Network Ten และวิลกินสันดำเนินการต่อสู้ทางกฎหมายกับข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยอ้างว่า รายงานไปเพื่อปกป้องความจริง ซึ่งหมายความว่า หากต้องการชนะ พวกเขาจำเป็นต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า การข่มขืนเกิดขึ้นจริง

แต่ล่าสุดในการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งมีการถ่ายทอดสดบนยูทูบ เลห์มันน์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้คดี โดยผู้พิพากษามีคำตัดสินว่า “มีมูลความจริงว่าเลห์มันน์ลงมือข่มขืนฮิกกินส์จริง”

ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลาง ไมเคิล ลี ได้ประกาศยุติการพิจารณาคดีอันยาวนาน โดยบอกว่า “คุณเลห์มันน์ข่มขืนมิสฮิกกินส์”

ลีระบุว่า ทั้งสองมีเพศสัมพันธ์กันในคืนนั้น แต่ฮิกกินส์เมามากจนไม่สามารถให้ความยินยอมได้ และเลห์มันน์ก็ไม่ได้พยายามถามหาความยินยอมด้วย

“มีแนวโน้มมากว่า สภาพจิตใจของเลห์มันน์ต้องการทำให้ตนเองพึงพอใจจนไม่แยแสต่อความยินยอมของมิสฮิกกินส์” ลีกล่าว

คำตัดสินดังกล่าวทำลายความพยายามของเลห์มันน์ในการล้างชื่อเสียงของเขา

การตัดสินคดีออกมาเช่นนี้ ลีได้ตรวจสอบหลักฐานจำนวนมาก ทั้งบันทึก ข้อความ ข้อความโซเชียลมีเดีย อีเมล ชั่วโมงแห่งเสียง ตลอดจนภาพจากกล้องวงจรปิดของคืนที่เกิดเหตุ

เขาบอกว่า หลักฐานเหล่านี้ให้ข้อมูลที่แน่นอนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นได้มากกว่าคำให้การของเลห์มันน์หรือฮิกกินส์เสียอีก

ลีตรวจสอบเหตุการณ์ในคืนนั้นทั้งหมด ตั้งแต่ภาพจากบาร์แห่งหนึ่งในแคนเบอร์ราที่แสดงให้เห็นทั้งคู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนร่วมงานพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

ที่ผ่านมา เลห์มันน์ยืนยันมาโดยตลอดว่า เขาไม่ได้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่วิดีโอกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เขาดึงการ์ดออกมาและจ่ายเงินเพื่อซื้อเครื่องดื่ม

หลังจากศึกษาวิดีโออย่างพิถีพิถัน ลีได้ข้อสรุปว่า ฮิกกินส์ดื่มแอลกอฮอล์ไป 11 แก้ว และกล้องเห็นเธอสะดุดล้ม หมายความว่า เลห์มันน์น่าจะรู้เช่นกันว่าเธอดื่มมากเกินไป

ลียังได้รับหลักฐานจากเพื่อนร่วมงานที่เห็นเลห์มันน์และฮิกกินส์จูบกันอย่างเร่าร้อนที่บาร์ แม้ว่าทั้งเลห์มันน์และฮิกกินส์จะปฏิเสธก็ตาม

ลีพบว่าทั้งคู่กลับไปที่อาคารรัฐสภาเนื่องจากเลห์มันน์ต้องการดื่มวิสกี้ต่อ โดยปัดตกคำกล่าวอ้างของเขาที่บอกว่ากลับไปเพื่อเอากุญแจบ้าน และจดบันทึกเกี่ยวกับข้อตกลงเรือดำน้ำของฝรั่งเศส

“เห็นได้ชัดว่า มีความคิดหนึ่งที่ครอบงำอยู่ในใจของนายเลห์มันน์ ขณะที่เขากำลังกลับไปยังรัฐสภา และไม่เกี่ยวข้องกับสัญญาเรือดำน้ำของฝรั่งเศส” ลีกล่าว

ลีไม่ได้ตำหนิเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภาที่ปล่อยให้พวกเขาเข้าไป โดยบอกว่าเป็นการยากที่จะตัดสินว่าฮิกกินส์เมาแค่ไหน และตั้งคำถามว่าทำไม 40 นาทีหลังจากนั้นเลห์มันน์จึงกลับบ้านไปตามลำพังด้วยบริการ Uber

“ผู้ชายที่มีมารยาท ไม่น่าจะทิ้งหญิงสาวไว้ตอนดึกและควรตามไปส่งเธอด้วย รวมถึงเขารู้ว่าเธอดื่มมา และควรตรวจสอบว่าเธอกลับไปแล้วหรือไม่ และหากไม่ เธอจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยได้อย่างไร” ลีกล่าว

หลายชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพบเธออยู่ในสภาพนอนขดตัว และเสื้อผ้าถูกเลิกขึ้น จากนั้นฮิกกินส์ออกจากรัฐสภาเพียงลำพัง และไม่ได้แจ้งความกับตำรวจในทันที

หลังคำตัดสินออกมา Network Ten กล่าวว่า “นี่เป็นชัยชนะเพื่อรักษาความจริง ... การตัดสินของผู้พิพากษาลีเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความกล้าหาญของ บริตตานี ฮิกกินส์ ผู้ให้สิทธิ์เสียงแก่ผู้หญิงทั่วประเทศ”

เรียบเรียงจาก CNN

2024-04-16T08:06:58Z dg43tfdfdgfd