ส่งรถดูดโคลนเลนพร้อมเจ้าหน้าที่ช่วยน้ำท่วมเชียงราย เคลียร์ดินอุดท่อขวางทางระบายน้ำ

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. ดินแดง  นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัด กทม. นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผอ.สำนักการระบายน้ำ นายสุนทร สุนทรชาติ ผอ.สำนักอนามัย และเจ้าหน้าที่จากหน่วยที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยขบวนรถดูดโคลนกรุงเทพมหานคร ช่วยเหลือผู้ประสบภัย จ.เชียงราย โดยปลัด กทม.ได้กล่าวให้โอวาทผู้ที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ว่า ภารกิจที่เราจะไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดเชียงรายนั้น เป็นภารกิจของการบรรเทาทุกข์ภัย จากดินโคลนถล่มซึ่งเกิดขึ้นจากอุทกภัย แม้วันนี้ฝนยังตกอยู่แต่ร่องรอยที่เกิดขึ้น และดินโคลนที่อัดแน่นตามบ้านเรือนยังมีอีกมากมายที่ต้องแก้ไขเปิดทาง

ตนจึงขอเป็นตัวแทนผู้บริหาร กทม. ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่จะปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมนำเครื่องจักรกลและเครื่องมือไปปฏิบัติงานได้ตรงวัตถุประสงค์ที่ต้องการ จึงขอให้พวกเราช่วยกันอย่างเต็มที่ ให้การปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้เรียบร้อยและขอให้ระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ยึดความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ 

ปลัด กทม. ยังกล่าวถึงภารกิจส่งเจ้าหน้าที่และรถดูดโคลนไปสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย ว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการให้ทีมงานเร่งประสานในพื้นที่ว่า กทม.จะช่วยเหลือ สนับสนุนในภารกิจครั้งนี้ได้อย่างไร  ซึ่งทางนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.เชียงราย ได้ประสานมาว่าต้องการรถดูดโคลนไปช่วยสนับสนุน กทม. จึงได้ส่งไปช่วยที่ จ.เชียงราย ได้ 2 คัน จากทั้งหมด 6 คัน ซึ่งเป็นคันใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง ส่วนอีก 4 คันที่เหลือจะประปฏิบัติงานในพื้นที่ กทม.

ปลัด กทม. กล่าวต่อไปว่า นอกจากรถดูดโคลนแล้ว กทม.ยังนำรถซ่อมโมบาย รถบรรทุกติดตั้งเครนขนาด 65 ตัน สนับสนุนเรื่องการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องกลหนัก รถไฟฟ้าส่องสว่าง โดยเจ้าหน้าที่ที่ไปปฏิบัติหน้าที่จะเป็นข้าราชการและลูกจ้างรวม 26 คน โดยจะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้ว่าฯ กทม. ได้มอบหมาย เบื้องต้นจะเข้าไปช่วยในพื้นที่ อ.แม่สาย 1 คัน และอ.เมืองเชียงราย 1 คัน รวมถึงการสนับสนุนอาหารของอุปโภคบริโภคสำหรับเจ้าหน้าที่ กทม. อยากให้ทุกคนไว้วางใจว่าเราดูแลเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างเต็มที่

ปลัด กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ กทม.ยังคงเปิดรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค แต่ไม่รับเงิน เพื่อจะรวบรวมสนับสนุนผู้ประสบภัย น้ำใจจากชาวกรุงเทพฯ เป็นส่วนหนึ่งการดำเนินการไปเสริมเพิ่มเติมซึ่งมีพี่น้องทหารอีกหลายหน่วยที่ไปช่วยในพื้นที่ ขอส่งกำลังใจจากกรุงเทพฯ ไปยังผู้ประสบภัย ขอให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้โดยเร็ว โดยสามารถบริจาคได้ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตและที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้า ถึง 30 ก.ย.นี้ จากนั้นจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคลื่อนย้ายไปส่งมอบอีกที ถ้าหากในพื้นที่เชียงรายเต็มแล้ว อาจจะเคลื่อนไปช่วยเหลือพื้นที่อื่นได้

ด้าน ผอ.สำนักการระบายน้ำ กล่าวถึงการทำงานของรถดูดโคลนว่า เนื่องจากในพื้นที่ประสบอุทกภัยเมื่อน้ำเริ่มลดลงจะมีโคลนเข้าไปอุดตันทุกท่อระบายน้ำ และเส้นทางระบายน้ำ จึงต้องนำรถไปช่วยดูเลนตามท่อ หรือซอกซอยที่กีดขวางทางระบายน้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เมื่อวาน (18 ก.ย.) ได้ประเมินสถานการณ์แล้ว ถ้าหากมีเพิ่มเติมอะไรต้องรายงานกลับมาที่ ผู้ว่าฯ กทม. คาดว่า จะใช้เวลาในการปฏิบัติหน้าที่ 1 สัปดาห์และประเมินหน้างานอีกครั้งซึ่งหากนานกว่านั้น เจ้าหน้าที่ของ กทม.ก็ยังพร้อมทำงานต่อ

สำหรับมวลน้ำที่อยู่ในกรุงเทพฯ ถ้ามาถึงแล้วจะป้องกันอย่างไร ผอ.สำนักการระบายน้ำ เผยว่า สถานการณ์น้ำที่กรุงเทพฯ เฝ้าติดตามอยู่ เขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำยังอยู่ในระดับ 1,100 ลูกบาศก์เมตร ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แต่เราไม่ประมาทเฝ้าจับตาสถานการณ์ว่าจะมีพายุลูกใดพัดผ่านในพื้นที่ภาคกลาง ผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการและเตรียมพร้อมมาหลายเดือน มีแนวป้องกันน้ำท่วม การเรียงกระสอบทรายก็ดำเนินการแล้วเสร็จ

ขณะที่เมื่อวานฝนตกกระจายทั่วกรุงเทพฯ บริเวณที่เคยเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วม เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ วงเวียนบางเขน ศาลอาญา กทม. จัดการน้ำบริหารน้ำอย่างไรนั้น ผอ.สำนักการระบายน้ำ เผยว่า วงเวียนบางเขนจากปีที่แล้ว ใช้เวลานานแต่ตอนนี้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ก็เคลียร์ได้ รวมถึงการขุดลอกคลองเส้นเลือดฝอย ซึ่งกทม.มีมาตรการเข้มข้นในการลดระดับน้ำ ตอนนี้น้ำในคลองลดระดับต่ำมากเพื่อเป็นแก้มลิงรองรับน้ำฝน ถ้าน้ำในคลองยังไม่เต็มก็สามารถระบายเร็วอย่างแน่นอน

นางวันทนีย์ ย้ำด้วยว่า อยากจะขอความร่วมมือให้เฝ้าฟังติดตามรายงานข่าวสถานการณ์ในกรุงเทพฯ จะแจ้งเตือนเป็นระยะ สำหรับสถานการณ์ฝนน้ำท่วมขังเมื่อวานนี้ ที่ตกทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ พื้นที่จตุจักรที่มีปริมาณฝนหนักที่สุดก็รับมือได้ดี ไม่มีน้ำท่วมขัง และเขตหลักสี่ที่มีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ก็ลงได้รวดเร็ว 

“ประเด็นสำคัญที่ต้องเฝ้าติดตาม เพราะเราไม่รู้ว่าฝนจะตกในลักษณะแช่นานหรือผ่านไปไว ระบบระบายน้ำแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน ตกเยอะน้ำมากอาจจะระบายช้า กทม. เตรียมการลอกท่อลอกคลอง เราไม่ประมาทแต่ต้องติดตามและเราจะทำให้ดีที่สุดให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด และขอเน้นย้ำถึงชาว กทม. ว่า อย่าทิ้งขยะลงคลอง เพราะมีขยะที่ไปกรองหน้าตะแกรงจำนวนมาก เราอยากเห็นกรุงเทพฯ ปลอดภัยจากน้ำท่วมขัง ร่วมมือกับเราหน่อยไม่ทิ้งขยะลงคลอง".

2024-09-19T06:28:38Z dg43tfdfdgfd