อิสราเอลเมินมติหยุดยิงยูเอ็น เดินหน้าถล่มเมืองราฟาห์

ระหว่างพบปะพูดคุยกับ กับนาย ริค  สก็อตต์  สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันจากสหรัฐฯ ในเมืองเยรูซาเลม เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ได้ชี้แจงว่า การยกเลิกแผนการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลในสัปดาห์นี้มีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้กลุ่มฮามาสเห็นว่าจะไม่มีการอ่อนข้อต่อกระแสกดดันจากนานาประเทศที่ต้องการยุติการสู้รบในกาซา

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เนทันยาฮู ยังวิจารณ์ว่ามติเรียกร้องการหยุดยิงในฉนวนกาซาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และการงดออกเสียของสหรัฐฯ โดยไม่ใช้สิทธ์ยับยั้ง เป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการสนับสนุนให้กลุ่มฮามาสใช้แนวทางสุดโต่ง และมีความเชื่อว่าแรงกดดันจากประเทศอื่นจะสามารถทำให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการทางทหารได้ 

ส่วนสถานการณ์การสู้รบในฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะเมืองราฟาห์ ซึ่งอิสราเอลโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา แม้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพิ่งลงมติเรียกร้องให้อิสราเอลและฮามาสหยุดยิงทันทีเมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.)

ขณะเดียวกันสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐออกแถลงการณ์ ยืนยันว่า กองทัพจะยังคงส่งเสบียงช่วยเหลือประชาชนในฉนวนกาซาจากทางอากาศต่อไป แต่ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลวอชิงตันจะเดินหน้าผลักดัน การมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านทางบก หรือทางถนนต่อไปด้วย 

คำยืนยันของสหรัฐฯมีขึ้นหลังจากกลุ่มฮามาสออกมาเรียกร้องให้นานาชาติหยุดหย่อนเสบียงทางอากาศในฉนวนกาซา หลังผู้ลี้ภัยแห่แย่งรับของตามชายหาด บางส่วนว่ายลงไปเอาของแจกถึงในทะเล สุดท้าย มีรายงานคนเหยียบกันตาย 6 คน จมน้ำอีก 12 คน 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความกังวลของสหประชาชนว่าอิสราเอล อาจใช้ “ความอดอยาก” เป็นอาวุธสงคราม

ปัจจุบัน มีเครื่องบินจากหลายประเทศ นำโดยสหรัฐฯ จอร์แดน อียิปต์ อังกฤษ และเยอรมนี ทำภารกิจหย่อนสิ่งของและเสบียงทางอากาศให้ผู้ลี้ภัยในกาซา แต่เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเตือนว่า ความช่วยเหลือเหล่านี้ยังคงไม่เพียงพอกับผู้ลี้ภัย 2.4 ล้านคน ที่อยู่ในฉนวนกาซา และเชื่อว่าการส่งความช่วยเหลือทางบก โดยอาศัยการเปิดจุดผ่านแดน น่าจะมีประสิทธิภาพกว่า 

2024-03-28T01:38:07Z dg43tfdfdgfd