เข้มเฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ รัฐบาลย้ำ วัว-ควายป่วยตายผิดปกติรีบแจ้งเจ้าหน้าที่

“เศรษฐา” สั่งติดตามสถานการณ์ เพิ่มการเฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ทั้งในคนและสัตว์ โฆษกรัฐบาลย้ำ หากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่

วันที่ 28 มีนาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์การเฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ กรณีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ 54 ราย และพบสัตว์ป่วยตาย ช่วงเดือนมีนาคม 2567 ในส่วนของประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่เพิ่มการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์ โดยเฉพาะด่านช่องทางเข้า-ออกที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว หากพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้กับโรคแอนแทรกช์ จะมีการสอบสวนโรคและรายงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทันที

สำหรับประชาชนหากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งหน่วยงานปศุสัตว์ในพื้นที่ หรือแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สำคัญห้ามสัมผัสเคลื่อนย้ายซาก หรือชำแหละเพื่อการบริโภคโดยเด็ดขาด และหากมีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยแล้วมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ ซึ่งโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ตั้งแต่ปี 2544 โดยแอนแทรกซ์เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียแบบเฉียบพลันจากเชื้อ Bacillus anthracis เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดหลังสัมผัสเชื้อขณะชำแหละสัตว์ป่วย หรือสัมผัสซากสัตว์ที่ป่วยตาย โดยเฉพาะวัว ควาย หรือสัตว์กินหญ้า มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะแพร่โรคจากคนสู่คน

โฆษกรัฐบาล ระบุต่อไปว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการอย่างเคร่งครัดผ่าน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามสถานการณ์ ป้องกันการสาธารณสุขในประเทศไทยให้เข้มงวด เฝ้าระวังสถานการณ์บริเวณชายแดน โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันดูแลเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย.

2024-03-28T07:41:05Z dg43tfdfdgfd