สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่า ฝ่ายค้านของฝรั่งเศส ยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเปิดการอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจ ต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง จากการให้นายกรัฐมนตรีเอลิซาเบธ บอร์น ใช้อำนาจตามมาตรา 49 : 3 ตามรัฐธรรมนูญ ในการผ่านกฎหมายบำนาญฉบับใหม่ ที่ประเด็นสำคัญคือ การเพิ่มเพดานอายุเกษียณ จาก 62 ปี เป็น 64 ปี แต่จะมีการขยายวงเงินบำนาญขั้นต่ำให้ด้วย
แม้พันธมิตรฝ่ายค้านของฝรั่งเศส มีเสียงข้างมากเหนือรัฐบาลอยู่อย่างน้อย 7 เสียงในสภา แต่ผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์ว่า "ยังคงเป็นไปได้น้อย" เนื่องจากพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านขนาดใหญ่อันดับ 3 ด้วยจำนวน 61 ที่นั่งในสภา ไม่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับพรรคฝ่ายค้านอื่น และยังคงมีความเห็นแตกต่างกันไป เกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้
ขณะที่บรรยากาศของการประท้วงบนท้องถนนในฝรั่งเศส เป็นไปอย่างดุเดือดเป็นวันที่สอง เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกรุงปารีส มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและถูกจับกุมจำนวนมาก ด้านพันธมิตรสหภาพแรงงานหลายสาขาอาชีพพร้อมใจ เตรียมผละงานประท้วงครั้งใหญ่ร่วมกันครั้งใหม่ ในวันที่ 23 มี.ค. นี้
สำหรับสาระสำคัญของแผนการดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสยืนยัน เป็นความพยายามยกระดับความเท่าเทียม และเพื่อการันตีสิทธิขั้นพื้นฐานด้านแรงงานที่ครอบคลุมให้กับทุกอาชีพ และ "เพื่อรักษาระบบโดยรวม" คือการที่บุคคลเกิดก่อนปี 2518 สามารถเกษียณอายุได้ที่ 62 ปี
อย่างไรก็ตาม บุคคลซึ่งเกิดหลังจากนั้น ต้องอยู่ภายใต้เพดานการเกษียณอายุใหม่ คือ 64 ปี เพื่อให้ได้รับสวัสดิการหลังเกษียณอายุแบบเต็มจำนวน โดยเงินบำนาญขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้นจาก 1,000 ยูโรต่อเดือน (ราว 36,605.56 บาท) เป็นเดือนละ 1,200 ยูโร (ราว 43,926.67 บาท) ครอบคลุมระยะเวลา 43 ปี.
เครดิตภาพ : REUTERS
2023-03-18T00:45:00Z dg43tfdfdgfd