‘ปานปรีย์’ อำลาข้าราชการ กระทรวงการต่างประเทศ หลังยื่นหนังสือลาออก

‘ปานปรีย์’ อำลาข้าราชการ กระทรวงการต่างประเทศ หลังยื่นหนังสือลาออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 เม.ย. 67) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเข้าไปที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่ออำลาและขอบคุณข้าราชการที่ได้ร่วมทำงานด้วยกันมา โดยข้าราชการของกระทรวงจำนวนมาก ได้ออกมารอส่งนายปานปรีย์ พร้อมปรบมือให้กำลังใจ

หลังการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ในวันที่ 27 เม.ย. 67 ซึ่งประกาศอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 67 นายปานปรีย์ พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี แต่ยังดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ซึ่งเขาได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในวันเดียวกัน

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 67 นายปานปรีย์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ หลังจากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า แม้การปรับครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ในการทำงานในตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ นั้น ส่วนมากจะมีตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีพ่วงด้วย เพี่อที่เวลาเดินทางไปปฏิบัติราชการหรือเจรจาใดๆ ในต่างประเทศ จะได้มีเกียรติและสามารถดำเนินการได้ราบรื่นมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาไทยก็มีผู้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ที่พ่วงกับรมว.ต่างประเทศ

นายปานปรีย์ กล่าวอีกว่า ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอาจไม่จำเป็นต้องกำกับดูแลหลายงาน โดยนายกรัฐมนตรีอาจมอบหมายงานให้กับรองนายกรัฐมนตรี คนอื่นก็ได้หรือจะมอบหมายให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อย่างในกรณีที่เคยมอบหมายให้ตนทำก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมาตนทำงานได้ด้วยความเรียบร้อย แต่เมื่อมาเหลือตำแหน่งเดียว ตนก็เห็นว่า สิ่งที่ตนจะดำเนินการต่อไป ในด้านการต่างประเทศอาจไม่รวดเร็วยังหรือราบรื่นเท่าที่ควร ทั้งตนคิดว่า ถ้านายกรัฐมนตรีเห็นว่ามีคนอื่นที่เหมาะสมกว่า ก็ให้มาทำงานแทนได้

เมื่อถามว่าการลาออกครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่องานต่างๆ ที่ได้มีการประสานกับต่างประเทศไว้หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนได้วางแผนไว้แล้วก่อนหน้านี้ว่า 6 เดือนหลังจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และตนเชื่อว่า คนที่จะมาสานงานต่อ สามารถที่จะทำงานแทนต่อไปได้

เมื่อถามอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้ทราบก่อนหรือไม่ว่าจะปรับครม. นายปานปรีย์ กล่าวว่า นายกฯ บอกกับตนว่าจำเป็นต้องปรับครม. แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าปรับอย่างไร ซึ่งตนตอบไปว่า “ครับ” จากนั้นยังไม่ได้คุยอะไรกันอีก

เมื่อถามว่า จะเปลี่ยนใจหรือไม่หากนายกรัฐมนตรีขอให้กลับมาช่วยทำงาน นายปานปรีย์ กล่าวว่า ก็นายกรัฐมนตรีตัดสินใจจะให้เป็นอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่ใช่ปัญหาของตน

เมื่อถามอีกว่าจะยังทำงานการเมืองต่อไปหรือไม่นั้น นายปานปรีย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ยังไม่ได้ตัดสินใจ

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 67 หลังเสร็จสิ้นภารกิจการต้อนรับและหารือกับนายกรัฐมนตรีบังคลาเทศที่เยือนทำเนียบรัฐบาลแล้ว นายเศรษฐา ได้เรียกนายปานปรีย์ เข้าไปพูดคุย ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการเข้าพบดังกล่าว ปรากฏว่า นายปานปรีย์มีสีหน้าเคร่งเครียด ไม่สู้ดีมากนัก แต่ยังคงไปปฏิบัติต่างๆ รวมถึงไปร่วมงานวันสราญรมย์ ที่กระทรวงการต่างประเทศ ในช่วงค่ำของวันเดียวกันด้วยท่าทีปกติ และไม่ได้มีการเปรยให้คณะผู้บริหารกระทรวงฯ ทราบล่วงหน้าว่า จะลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม หลังจากปรากฏข่าวเกี่ยวกับจดหมายลาออกดังกล่าว ในวันที่ 28 เม.ย. นายปานปรีย์ได้แจ้งต่อคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศทั้งหมดให้ทราบว่า ได้ยื่นจดหมายขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศแล้ว โดยไม่ได้ระบุเหตุผลหรือฝากงานใดๆ ต่อคณะผู้บริหารกระทรวงฯ

2024-04-30T07:08:17Z dg43tfdfdgfd